หน้าเว็บ

Web Blog การเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ประกอบการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ (สาระเพิ่ม) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ส 22102 และ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ส 23102 ครูชาญวิทย์ ปรีชาพาณิชพัฒนา ในการฝึกทักษะเรียนรู้พื้นฐาน การจัดการความรู้ ทักษะภาษาดิจิตอล ทักษะการรู้คิดประดิษฐ์สร้าง ทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การสื่อสารที่มีประสิทธิผล ทักษะการสืบค้น ฯลฯ เพื่อพัฒนาไปสู่ทักษะความรู้ที่มุ่งหวังของหลักสูตร โรงเรียนมาตรฐานสากล 6 ประการ ประกอบด้วย (1) ทักษะการเรียนรู้ Learning Skills (2) ทักษะการคิด Thinking Skills (3) ทักษะการแก้ปัญหา Problerm Skills (4) ทักษะชีวิต Life Skills (5) ทักษะการใช้เทคโนโลยี Technology Skills (6) ทักษะการสื่อสาร Communication Skills ทฤษฎีระบบการเรียน KM (Knowlead Maneagement) โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม (Word Class Standard)

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

หน่วยที่5

หน่วยที่ 5

   ที่ตั้งเเละสภาพภูมิศาสตร์ที่มีผลต่อพัฒนาการของทวีปเอเชีย

     หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ การพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดนั้น ผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า วิธีการเรียนรู้ในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นวิชาใดนั้น ครูจะต้องสร้างสมรรถนะสำคัญ 4 ประการให้กับนักเรียน เพื่อใช้ในการศึกษาเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

        1.  รู้ภาษาดิจิตอล

        2.  รู้คิดประดิษฐ์สร้าง

        3.  สื่อสารมีประสิทธิภาพ

        4.  สื่อสารมีประสิทธิผล

ซึ่งสมรรถนะทั้งสี่ประการจะนำไปสู่สมรรถนะสำคัญ 5 ประการ คือ

1.  ความสามารถในการสื่อสาร
2.  ความสามารถในการคิด
3.  ความสามารถในการแก้ปัญหา
4.  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5.  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

“โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ไม่ได้สอนการศึกษา แต่สอนวิธีการศึกษา” นั่นก็หมายความว่า บทบาทและหน้าที่ของโรงเรียนคือ สอนวิธีการหาความรู้ การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ เพื่อพัฒนาผู้เรียนไปให้ถึงคำว่า “ปัญญา” ซึ่งผู้เรียนเป็นรอบรู้ที่ถูกต้องและเป็นไปตามความจริง  ผ่านกระบวนการในการเรียนรู้ ที่ต้องประยุกต์ปรับเปลี่ยนวิธีการ นำไปสู่เป้าหมายของการเรียนรู้ อย่างถูกต้อง นั่นคือ ผู้เรียนเป็นคนดี ผู้เรียนเป็นคนเก่ง ผู้เรียนเป็นมีความสุข และมีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์

ผู้เขียนในฐานะ ครู ทำหน้าที่แนะนำวิธีการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน สามารถนำไปประยุกต์ พัฒนาใช้ความรู้ให้มีประสิทธิภาพประสิทธิผล ในการเรียน การดำเนินชีวิตของผู้เรียน อย่างมั่นคง มีความสุขในสังคม จึงสร้างโมเดลแนวคิดกระบวนการเรียนการสอน เพื่อมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามมาตรฐานของหลักสูตรที่กำหนดไว้

การพัฒนาการเรียนรู้ในปัจจุบัน จะต้องให้ผู้เรียนมีสมรรถนะสำคัญในกระบวนการวิธีการเรียนรู้ที่สำคัญๆ ได้แก่

สมรรถนะที่ 1 ผู้เรียนรู้ภาษาดิจิตอล คำว่าภาษาดิจิตอล ก็คือภาษาที่สามารถสื่อสารสั่งงาน ใช้งานคอมพิวเตอร์ได้รู้เรื่อง เช่นมีความสามารถเปิดปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ปิดเปิดใช้โปรแกรมทำงานต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและหลากหลาย ยิ่งใช้ได้มากก็แสดงให้เห็นความรู้ความสามารถด้านภาษาดิจิตอล นั่นเอง

สมรรถนะที่ 2 ผู้เรียนรู้คิดประดิษฐ์สร้าง หมายความว่า ผู้เรียนสามารถนำเอาองค์ความรู้และองค์ปัญญาจากสมรรถนะที่ 1 นำมาประยุกต์ใช้ จัดทำเครื่องมือเพื่อการสื่อสารเรียนรู้ การต่อยอดองค์ความรู้ให้หลากหลาย เช่นนำความรู้จากสมรรถนะที่ 1 รู้ภาษาดิจิตอล มาสร้างเว็บ สร้างบล็อก สร้างกลุ่มการเรียนรู้ผ่านโครงข่ายการสื่อสารบนระบบอินเตอร์เน็ตได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ

สมรรถนะที่ 3 ผู้เรียนสามารถสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ หมายถึงผู้เรียนสมารถนำสมรรถนะที่ 1 สมรรถนะที่ 2 นำมาประยุกต์ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เผยแพร่ แบ่งบัน แลกเปลี่ยนความรู้ ได้อย่างกว้างขวางบนโลกไอที อย่างไม่มีขีดจำกัด บนพื้นฐานของหลักความรู้ หลักจรรยาบรรณที่ดี

สมรรถนะที่ 4 ผู้เรียนสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิผล หมายถึง การนำสมรรถนะที่ 1 สมรรถนะที่ 2 และสมรรถนะที่ 3 นำองค์ความรู้ต่างๆ มาเผยแพร่ แลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็น จากผู้อ่านผู้สนใจ แล้วนำมาวิเคราะห์สังเคราะห์ จนตกผลึกทางความคิด ทางปัญญา นำมาเขียนเป็นบทความในทัศนะของตน เพื่อพัฒนาและต่อยอดและประยุกต์องค์ความรู้ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

โลกหมุนไม่เคยหยุด เป็นความจริงที่ไม่สามารถปฎิเสธได้ เด็กๆ ยุคใหม่เกิดพร้อมๆกับคอมพิวเตอร์ ยอมรับว่าการนำไอทีมาเป็นสื่อการสอนเป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับคุณครูรุ่นเก่า แต่ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้ อยู่ที่ความพยายาม โดยเฉพาะในฐานะที่ต้องเรียนรู้เพื่อพัฒนาศิษย์ จะหยุดนิ่งไม่ได้

ผู้เขียนตัดสินใจค้นคว้าศึกษา และพิจารณาตัดสินใจนำเทคโนโลยี สังคมออนไลน์ โซเชี่ยลมีเดีย ที่มีความง่าย เหมาะสม และฟรีที่เขาใช้กัน ไม่ว่าจะเป็น Facebook Tawitter  Skype  Sites google  Blogger  ฯลฯ และตัดสินใจนำเอามาประยุต์ใช้กับผู้เรียนในรายวิชาโลกศึกษา วิชาภูมิศาสตร์ วิชาเศรษฐศาสตร์ วิชาประวัติศาสตร์ ที่ผู้เขียนรับผิดชอบในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โดยทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ปรับวิธีการเรียน เปลี่ยนวิธีการสอนอย่างช้าๆ เพราะปัจจัยแวดล้อม เช่นไม่มีห้องเรียนที่มีสื่อการเรียน ที่เพียงพอและเหมาะสม เด็กมีความแตกต่าง บางคนมีคอมพิวเตอร์ บางคนไม่มี ก็ค่อยหาข้อมูล ระหว่างที่ปรับเปลี่ยน ก็ค้นหาข้อมูลผลิตผลงานด้วยการเขียนบล็อก พัฒนาเนื้อหา แบ่งปันประสบการณ์ ความรู้กับครูด้วยกัน การทำงานเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำอย่างเป็นขั้นตอน สร้างความรู้ ให้เกิดความเข้าใจ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้

ทั้งนี้การเรียนการสอน ที่ใช้วิธีให้ผู้เรียน ไปค้นเนื้อหาสาระความรู้ในห้องสมุด แล้วนำมาเขียนรายงาน ลงในกระดาษ และนำมานำเสนอหน้าห้องเรียนให้เพื่อนๆ รับฟัง ก็ปรับเปลี่ยนให้ค้นหาข้อมูลด้วยโปรแกรม Google ซึ่งเป็นห้องสมุดแหล่งเรียนรู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อได้ข้อมูลก็นำเสนอขึ้นบนเครือข่าย ในเว็บต์ที่สร้างขึ้นเอง เพื่อเผยแพร่และแชร์ ให้ผู้สนใจเข้าไปอ่านและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาสาระในบทความ ที่จัดทำ ทั้งใน Facebook  Web site Blogger ที่ตนเองสร้างขึ้นมา ผู้เรียนนำความคิดเห็นที่มีผู้แสดงนำมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ความรู้ โดยอาศัยหลักการคิดวิเคราะห์ ( 5 W 1 H ) คือ

1.            What   = อะไร
2.            When   = เมื่อไหร่
3.            Where  = ที่ไหน
4.            Why    = ทำไม
5.            Who    = ใคร
6.            How    = อย่างไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น